นายมนัส โกศล ประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน
ในปี 2553 มีการรวมตัวของกลุ่มผู้ใช้แรงงานเพื่อปฏิรูปประกันสังคมให้เป็นอิสระ มีความคล่องตัวขึ้น มีการยื่นกฎหมายเข้าชื่อของภาคประชาชนจำนวน 14,600 รายชื่อ ในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสมัยนั้นไม่รับหลักการในวาระ 1 แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นก็ยังมีการขับเคลื่อนต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน โดยขับเคลื่อนในนาม “เครือข่ายประกันสังคมคนทำงานหรือคปค.” รวมคนทำงาน 17 องค์กรมาทำงานผลักดันร่วมกัน โดยเห็นว่าควรเน้นการปฏิรูปในบางประเด็นที่สามารถเป็นไปได้ก่อน
.
ต่อมาภายหลังการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้หยิบยกร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ....มาพิจารณาในฐานะกฎหมายเร่งด่วนใน 38 ฉบับ และตัวผมเองก็ได้เข้าสู่การเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ร่วมด้วย โดยมีพลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร เป็นประธานในการพิจารณา จนพบว่ามีการแก้ไขในหลายๆประเด็นที่ดีขึ้นมาก เช่น กรณีทุพพลภาพ , การคลอดบุตร เป็นต้น
.
อย่างไรก็ตามหลังจากที่กฎหมายประกันสังคมได้ประกาศใช้แล้ว ต้องมีการออกกฎหมายลูกเพื่อมาบังคับใช้ในระดับปฏิบัติการ แต่ก็ยังมีความล่าช้าอยู่
สำหรับในประเด็นที่จะหารือในวันนี้โดยตรง คือ มาตรา 63 (2) และ (7) พบว่า เดิมในร่างรัฐบาลไม่มีเรื่องนี้เลย แต่ในคณะกรรมาธิการฯมีนายแพทย์หลายท่านที่ได้หยิบยกมาหารือว่า ในระบบ สปสช. มีการเยียวยาผู้เสียหายเบื้องต้นจากการรักษาทางการแพทย์ ดังนั้นระบบประกันสังคมควรมีการพิจารณาเรื่องนี้ร่วมด้วย จนสามารถผลักดันออกมาได้
.
ต่อมาเมื่อมาพิจารณาที่มาตรา 54 ที่มี 7 กรณี แต่เรื่องส่งเสริมสุขภาพไม่มี ทำให้เพิ่มเรื่องนี้เข้ามาในมาตรา 63 (2) ระบุเรื่อง ค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคขึ้นมา
.
ณ วันนี้มีผู้ประกันตนในมาตรา 33 ประมาณ 10 ล้านคน มาตรา 39 ประมาณ 1 ล้าน 3 แสนคน มาตรา 40 ประมาณ 2 ล้าน 2 แสน 6 หมื่นคน รวมแล้วประมาณ 14 ล้านคน
.
ในประเทศไทยมีระบบกองทุนสุขภาพหลายด้าน เช่น กองทุนข้าราชการดูแล 2.5 ล้านคน , กองทุนประกันสังคมที่เกิดการจ่ายเงินสมทบจากลูกจ้างและนายจ้างมาตั้งแต่ปี 2533 , กองทุนหลักประกันสุขภาพหรือสปสช. เกิดปี 2544-2545 ใช้ภาษีประชาชนทั้งหมด ดูแลคนประมาณ 65 ล้านคน (ทั้งนี้ผู้ประกันตน 14 ล้าน ก็อยู่ในส่วนนี้)
.
เช่น กรณีความต่างในระบบการคลอดบุตร กรณีประกันสังคมเหมาจ่าย 13,000 บาท ซึ่งจ่ายหลังจากคลอดบุตรแล้ว แต่ระบบ สปสช. ดูแลให้ฟรีตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ เป็นต้น นี้คือความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ทำให้มีความจำเป็นต้องมาหารือกันในเรื่องนี้ให้เกิดความเท่าเทียม โดยเฉพาะหลักการพื้นฐาน
.
ผมเคยถามหมอบางท่านว่า “ตรวจสุขภาพ” กับ “ส่งเสริมป้องกันโรค” มีความหมายเดียวกันไหม ก็พบว่า คนละความหมายกัน ดังนั้นทำอย่างไรที่เมื่อตรวจสุขภาพแล้วต้องหากลไกในการส่งเสริมป้องกันโรคต่อไป
.
ดังนั้นเจตนารมณ์ของเครือข่าย คปค. คือ ป้องกัน ส่งเสริม และรักษา ที่ดำเนินไปในทิศทางเดียวกันมากกว่าแยกกันดำเนินการ
.
สรุปสาระสำคัญจากการประชุมเวทีสาธารณะ 2 ปี พระราชบัญญัติประกันสังคม ฉบับที่ 4/ 2558
การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค มาตรา 63 (2) ผู้ประกันตนได้อะไร ?
วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2560 เวลา 08.30-15.00 น.
ห้องประชุมจอมพล ป. พิบูลสงคราม ชั้น 5 กระทรวงแรงงาน
.
จัดโดย สภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแห่งประเทศไทย ร่วมกับ เครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน และโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่าย เพื่อพัฒนานโยบายการสร้างเสริมสุขภาวะและการมีหลักประกันทางสังคมสำหรับคนทำงาน (คสปค.)