สนช.ผ่านกฎหมายเพิ่มค่าชดเชยเลิกจ้าง อายุงาน 20 ปี ได้ 400 วัน
สภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย โดย นายมนัส โกศล ประธานสภาฯ ผลักดันร่างแก้ไขพรบ.คุ้มครองแรงงาน ผ่านสนช.ได้สิทธิประโยชน์หลัก 7 ข้อใหญ่ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 โดยที่ประชุม สนช.เห็นชอบ หลังจากนั้นรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายใน 30 วัน จะมีผลบังคับใช้ทันที
7 ประเด็นใหญ่ คือ
ประเด็นที่ 1 ลากิจธุระจำเป็นได้ค่าจ้าง 3 วันทำงานต่อปี
ประเด็นที่ 2 ลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์ลาก่อนคลอด หลังคลอดได้ 98 วัน
ประเด็นที่ 3 กรณีนายจ้างมีการเปลี่ยนตัว เปลี่ยนนิติบุคคล หากลูกจ้างไม่ยินยอม ก็สามารถรับค่าชดเชยพิเศษตามกฎหมายฉบับนี้ โดยหากทำงานมาครบ 20 ปี ก็ได้รับ 400 วัน
ประเด็นที่ 4 ได้รับค่าชดเชยใหม่กรณีเลิกจ้างจะเพิ่มเป็น 6 อัตราจาก 5 อัตรา คือ
- อัตราที่ 1 ลูกจ้างที่ทำงานมาครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี ได้ค่าชดเชย 30 วัน
- อัตราที่ 2 ลูกจ้างที่ทำงานมาครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี ได้ค่าชดเชย 90 วัน
- อัตราที่ 3 ลูกจ้างทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี จะได้รับค่าชดเชย 180 วัน
- อัตราที่ 4 ลูกจ้างทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี ได้รับค่าชดเชย 240 วัน
- อัตราที่ 5 ลูกจ้างทำงานครบ 10 ปี แต่ไม่ครบ 20 ปี ได้รับค่าชดเชย 300 วัน
- อัตราที่ 6 ลูกจ้างทำงานครบ 20 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินค่าชดเชย 400 วัน
ประเด็นที่ 5 กรณีย้ายสถานประกอบการไปที่อื่น หากลูกจ้างไม่ตามไปก็สามารถบอกเลิกสัญญาจ้าง่ได้ และได้สิทธิชดเชยตาม 6 อัตรา ซึ่งกฎหมายเก่าไม่ได้เลย เราต้องตามไป แต่ของใหม่ให้สิทธิเราเลือกได้
ประเด็นที่ 6 กรณีค่าตอบแทน หากนายจ้างไม่จ่ายค่าตอบแทนจะเป็นในบางอาชีพ อย่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) คนขับรถส่งของ ก็เป็นงานที่ไม่มีค่าล่วงเวลา แต่จะได้ค่าตอบแทนเป็นหลัก หากเกินเวลาปกติ โดยของเดิมดอกเบี้ยให้ร้อยละ 7.5 ต่อปี กรณีลูกจ้างไปฟ้องขอ แต่กฎหมายใหม่ให้ได้สูงสุดถึง 15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
ประเด็นที่ 7 ให้สิทธฺิเท่าเทียมระหว่างหญิงชาย โดยลูกจ้างมีสิทธิเท่าเทียมกันในเรื่องค่าจ้าง ค่าตอบแทน ซึ่งกฎหมายเดิมไม่กำหนด แต่ของใหม่เราเพิ่มตรงนี้ว่า ลูกจ้างชายหญิงมีงานเท่าเทียมกันต้องได้รับค่าตอบแทนเท่ากัน ซึ่งตรงนี้สอดคล้องกับอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 100
|