ยุเพิ่มเงินว่างงานทำผลงานโบแดง
เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 63 นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย (สพท.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาเรื่องแรงงานในช่วงที่ผ่านมาว่า ผู้น้ำแรงงานมองว่าในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ แม้ขณะนี้จะมีการปรับขึ้นแต่ก็ยังไม่สมดุลกับค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพที่ขยับสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้การปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นแทนไม่มีความหมาย แต่สำหรับเรื่องประกันสังคมเรามองว่าการที่รัฐบาลขยายอายะของผู้ประกันตนจาก 60 ปี เพิ่มเป็น 65 ปี นั้น ถือเป็นเรื่องที่โดนใจผู้ใช้แรงงานเพราะในอนาคตจำนวนผู้สูงอายุจะมากขึ้น นอกจากนั้นเรากำลังขับเคลื่อนเรื่องสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน ซึ่งจากเดิมที่มีการจ่าย 30% ของเงินเดือนเป็นเวลา 90 วันกรณีลาออกจากงานและจ่าย 50% ของเงินเดือน เป็นเวลา 180 วันกรณีถูกเลิกจ้าง ซึ่ง สพท.และเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน(คปค.) ได้ขับเคลื่อนเพื่อขอให้ปรับเพิ่มเป็นจ่าย 75% ของเงินเดือน ระยะเวลา 180 วัน ไม่ว่ากรณีใดๆ เพื่อให้คนที่ว่างงานมีเงินพอที่จะยังชีพได้ในช่วงเวลาหางานใหม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้แรงงานจำนวนมาก และถือเป็นผลงานที่สามารถจับต้องได้
นายมนัส โกศล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานก็รับเรื่องไปแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา และในวันที่ 9 มี.ค. นี้ ตัวแทนของ สพท.และคปค.จำนวนหนึ่งจะเดินทางไปติดตามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวที่กระทรวงแรงงาน และขอให้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในการประชุมบอร์ดประกันสังคมในวันที่ 10 มี.ค. นี้ ทั้งนี้คิดว่าหากรัฐบาลสามา่รถขับเคลื่อนเรื่องนี้ได้ จะเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาลและรมว.แรงงาน เพราะสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานยังไม่เคยปรับอัตราการจ่ายเลยตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งสภาวการณ์ปัจจุบันการว่างงานมากขึ้น มีการปิดโรงงานการลาออกจำนวนมาก เราจึงมองว่าการที่ลูกจ้างจะอยุู่ได้จึงต้องมีกองทุนว่างงานคอยสนับสนุนในอัตรา 75% ของเงินเดือน ระยะ 180 วัน
เมื่อถามถึงกรณีที่กรุงเทพโพลล์เผยผลสำรวจซึ่งไม่พบว่า รมว.แรงงานมีผลงานเลยนั้น นายมนัส กล่าวว่า ตนมองว่า รมว.แรงงานมีผลงานอยู่บ้าง แต่อาจจะไม่เด่น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการรับฟังปัญหาจากกลุ่มแรงงานที่เสนอไปและมีการแก้ไขปัญหาในภาพรวม. |